"เชียน ซาน มู่ เสว่" ชีวิตรักแสนหวานของฉันกับอสูรร้าย
1.มีอยู่วันฉันเล่าด้วยน้ำเสียงอิจฉาเป็นที่สุดให้คนบางคนฟังว่า มีเด็กสาวคนหนึ่งพอถึงวันเกิด แฟนหนุ่มได้สั่งซื้อทุกอย่างในรายการของที่อยากได้ที่เด็กสาวคนนั้นเลือกเก็บไว้ในเว็บถาวเป่า(เว็บซื้อของชื่อดังของจีน)
และส่งให้เธอเป็นของขวัญ ฉันจงใจเล่าให้เขาฟังเพราะฉันเองก็มีรายการของที่อยากได้ในเว็บถาวป่าวเยอะแยะเหมือนกัน
หลังจากนั้นฉันก็ตั้งหน้าตั้งตารอของขวัญวันเกิดที่จะมาถึง
แต่ที่ไหนได้ เช้าจรดค่ำรอแล้วรอเล่าไม่มีพัสดุส่งมาแม้แต่ชิ้นเดียว ตัดสินใจเข้าเว็บถาวป่าวดูแล้วก็ต้องโมโหสุดขีด
เพราะสิ่งที่ฉันเลือกเก็บไว้ถูกลบออกจนเกลี้ยง ที่มุมของจอคอมฯมีโพสท์อิทแปะอยู่ เขียนว่า
“ ชีวิตยืนยาว ให้ห่างถาวเป่า” ตัวหนังสือตวัดหางยาวเหมือนกับที่เขาเซ็นต์ในเอกสาร ฉันอุตส่าห์เก็บบันทึกของที่อยากได้ไว้ด้วยความลำบากนานถึง3เดือนเชียวนะ....แล้วเราจะได้เห็นดีกัน
นายโม่เส้าเชียน
2.เสี่ยวเจารู้เข้าปลอบใจว่า บางครั้งผู้ชายก็ทำตัวเหมือนเด็กๆ
จะงอนไปทำไมเรื่องแค่นี้เอง อย่างน้อยเขาก็ยังมีของขวัญอย่างอื่นให้ ถึงจะเชยไปหน่อย
แต่หุ้นของอาลีบาบาคอร์ปอเรชั่นใช่ย่อยเสียที่ไหน (อาลีบาบาคอร์ปอเรชั่นเป็นเจ้าของเว็บไซท์ถาวเป่า
เป็นบริษัทด้านเว็บไซท์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน) ได้เป็นถึงผู้ถือหุ้นแล้วจะไปสนใจของที่เลือกไว้ทำไมอีก
ฟังเสี่ยวเจาพูดแบบนี้ฉันถึงกับอึ้งเถียงไม่ออกจนด้วยเหตุผล
เป็นเพราะช่วงนึงฉันนึกอยากเล่นหุ้นขึ้นมา ใครบางคนห้ามยังไงก็ไม่ฟัง
จึงแนะนำโบรกเกอร์ของตัวเองให้ฉัน และภายใต้การแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้น สุดท้ายฉันขาดทุนป่นปี้ ใครบางคนก็เลยช่วยซื้อหุ้นของฉันไว้แล้วขายออกไป
เงินที่ขายได้นำไปซื้อหุ้นของอาลีบาบาคอร์ปอเรชั่น ฉันจึงแปลงร่างจากผู้เล่นหุ้นเป็นผู้ถือหุ้นด้วยประการฉะนี้
แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าเป็นของขวัญวันเกิดได้ยังไง สมน้ำหน้าฉันล่ะไม่ว่า
3.หุ้นของอาลีบาบาคอร์ปอเรชั่นถูกฉันขายเป็นเงินกลับมา
บวกกับเงินส่วนตัวที่สะสมไว้ ฉันนำไปซื้อหุ้นของเถิงซวิ่นกรุ๊ปแทน โบรกเกอร์ถามฉันว่าทำไมถึงทำแบบนั้น
ฉันเหลือบหางตามอง แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ ว่าแล้วก็บอกเหตุผลให้เขาฟังด้วยน้ำเสียงเบิกบานใจ
เพราะหม่าฮว่าเถิง(เจ้าของเถิงซวิ่นกรุ๊ป) หล่อกว่าหม่าอวิ๋น(ซีอีโอของอาลีบาบาคอร์ปอเรชั่น)
วันดีคืนดีฉันได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเถิงซวิ่นกรุ๊ปก็แจ่มเลย มีประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อไร
ทีนี้ก็จะเห็นพี่หม่าตัวเป็นๆสักที
เดือนตุลา โม่เส้าเชียนโอนหุ้นล็อตใหญ่ให้เป็นชื่อฉัน
ตอนแรกก็ดีใจหรอกนะ ใครล่ะไม่ชอบเงิน แต่พอถึงเดือนธันวาเท่านั้นแหละ ความดีใจก็พลันสูญสลาย
เพราะฉันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จึงจำเป็นต้องไปร่วมประชุมกรรมการผู้ถือหุ้นที่ฮ่องกง ไอ้การประชุมแบบนี้บอกตรงๆว่าน่าเบื่อที่สุด
อยู่ในบ้านกับโม่เส้าเชียนก็ยังพอทน แต่นี่ต้องนั่งจ้องหน้าเขาอยู่ในห้องประชุมนานถึง8ชั่วโมง
ฉันล่ะอยากจะร้องไห้ ถึงวันที่3ฉันไม่ขอทนอีกแล้ว ยังไงก็ไม่ขอเข้าประชุมเด็ดขาดเป็นไงเป็นกัน
ใครบางคนเหลือบตาค้อนก่อนพูดว่า “ฉันหล่อกว่าพี่หม่านั่นตั้งเยอะ ทำไมเธอถึงไม่อยากไปประชุม”
4.เยว่อิ๋งเกลียดการเข้าประชุมผู้ถือหุ้นเหมือนกัน
แต่นั่นเป็นเพราะหล่อนมีสามีที่เก่งเกินคน ตอนนี้หล่อนมีคำพูดติดปากคำใหม่ว่า “แย่ที่สุดคืออะไร
ก็คือแต่งกับคนฉลาด จนตัวเองกลายเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้” สามีของเยว่อิ๋งใครๆก็ว่าเขาเป็นเด็กเทพ อายุไม่เท่าไรแต่ได้เป็นถึงผู้บริหารระดับสูง
กิจการงานในบริษัทก็จัดการได้อย่างเป็นระเบียบ รวมทั้งเรื่องในบ้านด้วย
เยว่อิ๋งว่า “บุคคลประแภทนี้น่ากลัวจริงๆ วันไหนที่ฉันหาชุดตัวเองไม่เจอวิ่งไปถามเขา รับรองว่าเขารู้แน่นอน เพราะเสื้อผ้าทุกตัวที่ซื้อมา เขาจะสั่งให้ผู้ช่วยบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ ทุกวันตอนเช้าถ้าฉันถามเขาว่าใส่ชุดไหนดี เขาจะรีบหยิบไอแพดขึ้นมา เปิดไฟล์อะไรสักอย่างยื่นให้ฉัน ไม่เพียงมีรูปเสื้อผ้าปรากฎออกมา ยังมีรูปรองเท้ากระเป๋าที่เข้าชุดกัน แถมบอกด้วยว่าวางอยู่ในตู้ใบไหน....” เยว่อิ๋งหงุดหงิดเสียงขึ้นจมูก “เขาจัดการฉันยังกับงานที่บริษัท”
ฉันตบบ่าหล่อนแสดงสปิริต “เราหนีกันเถอะ” เยว่อิ๋งตอบด้วยน้ำเสียงฮึกเหิม “ ดี หนีเลย แกล้งสองคนนั้นเล่น”
เยว่อิ๋งว่า “บุคคลประแภทนี้น่ากลัวจริงๆ วันไหนที่ฉันหาชุดตัวเองไม่เจอวิ่งไปถามเขา รับรองว่าเขารู้แน่นอน เพราะเสื้อผ้าทุกตัวที่ซื้อมา เขาจะสั่งให้ผู้ช่วยบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ ทุกวันตอนเช้าถ้าฉันถามเขาว่าใส่ชุดไหนดี เขาจะรีบหยิบไอแพดขึ้นมา เปิดไฟล์อะไรสักอย่างยื่นให้ฉัน ไม่เพียงมีรูปเสื้อผ้าปรากฎออกมา ยังมีรูปรองเท้ากระเป๋าที่เข้าชุดกัน แถมบอกด้วยว่าวางอยู่ในตู้ใบไหน....” เยว่อิ๋งหงุดหงิดเสียงขึ้นจมูก “เขาจัดการฉันยังกับงานที่บริษัท”
ฉันตบบ่าหล่อนแสดงสปิริต “เราหนีกันเถอะ” เยว่อิ๋งตอบด้วยน้ำเสียงฮึกเหิม “ ดี หนีเลย แกล้งสองคนนั้นเล่น”
5.แผนการหนีของฉันกับเยว่อิ๋งดำรงอยู่ได้แค่ชั่วโมงเดียวก็ถูกพายุฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักทำให้ล้มเลิกไป
พวกเราติดอยู่ในรถไฟใต้ดินเส้นที่2
ได้แต่ยืนตาปริบๆมองสายฝนที่ไหลเป็นน้ำตก สุดท้ายกัดฟันฝ่าขึ้นไป
สองคนเปียกมะล่อกมะแล่กรีบวิ่งไปหลบต่อที่ร้านแม็คโดนัล
ได้ยินเสียงมือถือเยว่อิ๋งดังขึ้น หล่อนรับสายด้วยน้ำหูน้ำตาไหลพราก อ่อนแอจริงๆ เชอะ มีหน้าจะหนีไปกับฉัน แค่สามีโทรมาก็แหกปากร้องให้มาช่วยแล้ว ไม่ถึงสิบนาทีรถโฟร์วีลก็แหวกลมมารับเสด็จ เยว่อิ๋งดึงให้ขึ้นรถไปด้วยกัน แต่ฉันงอนไม่ยอมขึ้น โม่เส้าเชียนไม่มีแม้แต่โทรศัพท์สักครั้ง ฝนตกหนักขนาดนี้ เขาไม่กลัวฉันหนีไปกับคนอื่นรึไง
ได้ยินเสียงมือถือเยว่อิ๋งดังขึ้น หล่อนรับสายด้วยน้ำหูน้ำตาไหลพราก อ่อนแอจริงๆ เชอะ มีหน้าจะหนีไปกับฉัน แค่สามีโทรมาก็แหกปากร้องให้มาช่วยแล้ว ไม่ถึงสิบนาทีรถโฟร์วีลก็แหวกลมมารับเสด็จ เยว่อิ๋งดึงให้ขึ้นรถไปด้วยกัน แต่ฉันงอนไม่ยอมขึ้น โม่เส้าเชียนไม่มีแม้แต่โทรศัพท์สักครั้ง ฝนตกหนักขนาดนี้ เขาไม่กลัวฉันหนีไปกับคนอื่นรึไง
แต่สุดท้ายเขาก็โทรมาจนได้ ฉันพูดไปว่า ถ้ายังไม่มารับจะหนีไปกับคนอื่นแล้วนะ
“อยากหนีก็หนีไปสิ” เขาส่งเสียงมาเท่านี้ก็วางหูไป ฉันโมโหจนน้ำตาแทบไหล
ปลอบใจตัวเองด้วยการกินแมคโดนัลเซ็ทใหญ่แบบเพิ่มเฟรนฟรายเป็นสอง
ฉันได้ของที่สั่งเดินออกมาพบว่าคนขับรถยืนถือร่มรอฉันอยู่ที่ถนน คนขับรถให้เหตุผลว่า เพราะฝนตกหนักมาก เที่ยวบินที่คุณโม่นั่งมาต้องลงจอดที่เทียนจิน จึงโทรให้เขามารับฉันแทน ตอนนั้นได้แต่ดีใจจึงลืมถามคนขับรถว่า โม่เส้าเชียนรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่ไหน
ฉันได้ของที่สั่งเดินออกมาพบว่าคนขับรถยืนถือร่มรอฉันอยู่ที่ถนน คนขับรถให้เหตุผลว่า เพราะฝนตกหนักมาก เที่ยวบินที่คุณโม่นั่งมาต้องลงจอดที่เทียนจิน จึงโทรให้เขามารับฉันแทน ตอนนั้นได้แต่ดีใจจึงลืมถามคนขับรถว่า โม่เส้าเชียนรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่ไหน
6.ต่อมาฉันถามโม่เส้าเชียนว่ารู้ได้ยังไงว่าตอนนั้นฉันติดฝนอยู่ที่ไหน
เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจว่าแฟนของเยว่อิ๋งโทรไปบอก น่าผิดหวังจริงๆเลย ฉันนึกว่าเขาจะเหมือนกับผู้ชายในนิยายรักที่แอบติดตั้งสัญญาณจีพีเอสในโทรศัพท์ของฉัน
ที่แท้ก็ถูกคนอื่นหักหลัง เฮอะ ผู้ชายในโลกเหมือนกันหมด
โม่เส้าเชียนกับสามีของเยว่อิ๋งถือว่าสนิทกันพอตัว
ถึงจะไม่ใช่คนพูดมากทั้งคู่ แต่ถ้าได้คุยกันเรื่องงานเป็นคุยไม่จบไม่สิ้น แล้วยังชอบไปเล่นบาส
ว่ายน้ำด้วยกันบ่อยๆ นอกจากนี้กลางวันยังเข้าประชุมเกี่ยวกับโปรเจ็คที่ทำร่วมกันอีก
ตอนแรกๆก็ไม่คิดอะไร แต่สักพักฉันอดใจไม่ไหวถามเยว่อิ๋งอย่างใคร่รู้ว่า “สองคนนั้นเขาจะหนีตามกันไหม” เยว่อิ๋งที่อ่านนิยายมาจนโชกโชน ตะลึงเล็กน้อย แต่ก็ตอบอย่างไม่แคร์ว่า “อยากหนีตามกันไปก็เชิญ เพื่อให้รักแท้ของทั้งคู่สมปรารถนา ฉันยินดีสละแม้ชีพ”
ตอนแรกๆก็ไม่คิดอะไร แต่สักพักฉันอดใจไม่ไหวถามเยว่อิ๋งอย่างใคร่รู้ว่า “สองคนนั้นเขาจะหนีตามกันไหม” เยว่อิ๋งที่อ่านนิยายมาจนโชกโชน ตะลึงเล็กน้อย แต่ก็ตอบอย่างไม่แคร์ว่า “อยากหนีตามกันไปก็เชิญ เพื่อให้รักแท้ของทั้งคู่สมปรารถนา ฉันยินดีสละแม้ชีพ”
7.ตอนเข้านอน ฉันอดถามโม่เส้าเชียนไม่ได้ว่า “คุณจะตกหลุมรักคนอื่นแล้วหนีตามกันไปรึเปล่า” เขาคร้านจะใส่ใจ พลิกตัวหันหลังให้ฉัน “ผู้หญิงน่ารำคาญจะตาย
ไม่อยากปวดกบาลกับอีกคนหรอก”
จบกัน ...ไม่อยากปวดกบาลกับผู้หญิงอีกคน หรือว่าเขาสนใจผู้ชายจริงๆ
แปลจากนวนิยายจีนเรื่อง "เชียนซานมู่เสว่" (ตอนชีวิตรักแสนหวานของฉันกับอสูรร้าย) ผู้แปล Lee Linli